Caravaggio (Milan, 1571 - Porto Ercole, 1610)

มิเกลันเจโล เมรีซี ดา คาราวัจโจ เกิดที่กรุงมิลานในปี ค.ศ. 1571 เป็นบุตรของแฟร์โม เมริซี และ ลูเซีย ฮาราโตรี ผู้มีพื้นเพมาจากหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองคาราวัจโจ ในวัยหนุ่ม คาราวัจโจได้ฝึกงานกับจิตรกรชาวมิลานนามว่า ซิโมเน เปแตร์ซาโน เป็นเวลานานเกือบสี่ปี และเริ่มมีความคุ้นเคยกับงานจิตรกรรมแบบลอมบาร์ดและเวนิสเป็นอย่างดี

เขาเดินทางมายังกรุงโรมในปีค.ศ. 1592 และเริ่มทำงานในสตูดิโอของ กาวาลิเยร์ ดาร์ปิโน เป็นที่แรก ตามด้วยสตูดิโอของคาร์ดินัล ฟรานเชสโก เดล มอนเต ในเวลาต่อมา

งานชุดแรกที่คาราวัจโจได้รับว่าจ้างคือภาพจิตรกรรมบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของนักบุญแม็ทธิวสำหรับประดับตกแต่งในโบสถ์ ซาน ลุยจีเดย ฟรานเชซี ซึ่งต่อมาเขาได้สร้างผลงานอีกหลายชิ้นสำหรับตกแต่งบริเวณในโบสถ์น้อยเซซารี ที่โบสถ์ซานตามาเรีย เดล โปโปโล

คาราวัจโจได้กลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงในเวลาอันรวดเร็ว แต่ชีวิตของเขาในกรุงโรมกลับเต็มไปด้วยการใช้กำลังกับปัญหาทะเลาะวิวาท การไต่สวน และการคบคนที่ไม่น่าไว้วางใจ เขาถูกตัดสินประหารชีวิตข้อหาฆ่าคนจากการทะเลาะวิวาทที่ทำให้ รานุชโช ตอมมาโซนี ถึงแก่ความตาย ในระหว่างการแข่งขันเทนนิสปัลลาคอร์ดา ในเย็นวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.1606 ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องหลบหนีออกจากกรุงโรมและไปอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลโกลอันนาเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งย้ายไปเมือง เนเปิลล์ ที่ที่เขาได้วาดภาพพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า สำหรับโบสถ์ ซาน โดเมนิโก มัจจอเร่ ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์กาโปดิมอนเตในปัจจุบัน

ในปี ค.ศ. 1607 คาราวัจโจตัดสินใจเดินทางไปมอลตาด้วยความหวังที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินในกองทัพที่จะช่วยให้เขาได้รับการคุ้มครองจากโทษประหาร เขาได้สร้างผลงานไว้หลายต่อหลายชิ้นที่มอลตา หนึ่งในนั้นคือ งานจิตรกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของเขาที่มีชื่อว่า การตัดศรีษะนักบุญยอห์น โดยคาราวัจโจได้เขียนชื่อของตนกำกับไว้ในภาพตรงจุดที่เลือดพุ่งออกจากลำคอของนักบุญยอห์น

ที่มอลตาคาราวัจโจ ยังคงมีนิสัยชอบก่อเรื่องดังเดิม เขาทะเลาะวิวาทกับอัศวินผู้หนึ่งจนถูกคุมขังอยู่ในคุกซานต์ อัลเจโล เมืองวาเล็ตตา ในที่สุด คาราวัจโจ สามารถหลบหนีออกจากคุกได้สำเร็จในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.1608 และได้ที่พักอาศัยในซิซิลี ระหว่างอยู่ที่ซีรากูซาและเมสสินา เขาได้วาดภาพการฝังศพของนักบุญลูซี และการฟื้นคืนชีพของลาซารัส

คาราวัจโจเดินทางกลับเนเปิลล์ในปีต่อมา จนกระทั่งถูกลอบทำร้านจนเสียโฉมขณะกำลังออกจากที่พักแห่งหนึ่ง โดยบุคคลที่สันนิษฐานว่าเป็นมือสังหารที่ว่าจ้างโดยกลุ่มอัศวินแห่งมอลตา คาราวัจโจสื่อเป็นนัยถึงความตายที่กำลังจะมาเยือนตนเองผ่านภาพชาวฟิลิสทีนที่ถูกตัดหัวในผลงานชิ้น เดวิดกับศรีษะโกไลแอธ

ขณะเดินทางจากเนเปิลล์ไปยังโรมเพื่อรับอภัยโทษจากคาร์ดินัล คาราวัจโจมีสุขภาพที่อ่อนแอและได้ล้มป่วยอย่างหนัก จนกระทั่งเสียชีวิตลงที่เมือง ปอร์โต แอร์โกเล ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1610



Work